ร้านข้าวกล่องอาม่าแนะนำ 4 เทคนิควางแผนการกินในยุค New Normal
สำหรับสถานการณ์โรคติดต่อโควิดก็ได้ผ่านพ้นช่วงที่พีคสุดไปแล้ว ในหลายพื้นที่ก็ได้มีการปลดล็อคดาวน์ เริ่มให้มีการเดินทางไปมาหาสู่กับมากขึ้น อาม่าเชื่อว่าหลาน ๆ หลายคนก็จะต้องมีการปรับตัวไม่มากก็น้อยในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เข้ากับการใช้ชีวิตแบบยุค New Normal ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทาง การทำงาน การออกไปทำธุรกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องของการกิน จากที่เมื่อก่อนเราอยู่บ้านหรือทำงานในออฟฟิศอยู่ แล้วนึกอยากกินหรืออยากทานอะไรเพียงแค่เดินออกไป ไม่ก็นั่งรถไปที่ร้านที่อยากทานกันได้เลย แต่ในปัจจุบันนี้หลาน ๆ หลายคนต้องมีการระมัดระวังตัวกันมากขึ้น เพราะถ้าหากเรา ‘การ์ดตก สุขภาพเราอาจ Game Over ได้เลย’ แล้วแบบนี้เราจะจัดการวางแผนการกินยังไงให้อิ่มอร่อยชิค ๆ ได้แม้ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุค New Normal 2020? วันนี้ร้านข้าวกล่องอาม่าเลยจะมาแนะนำเทคนิควางแผนการกินดี ๆ ให้ได้โน้ตไว้เป็นไอเดียกันครับ สั่งอาหาร ดิลิเวอรี่
– ร้านข้าวกล่องอาม่าแนะนำ 4 เทคนิควางแผนการกินในยุค New Normal –
“ อิ่มอร่อยแบบ New Normal หมดหวงเรื่องโควิด ”
เลือกทานอาหารที่ดี – เทคนิควางแผนการกินแบบร้านข้าวกล่องอาม่า’s สไตล์
ควรเลือกทำอาหารหรือสั่งอาหารข้าวกล่องที่มีความหลากหลาย ครบถ้วนด้านคุณค่าทางโภชนาการ ในหนึ่งมื้อควรเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตจากแป้งจำพวกข้าว โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไขมันดีจากสัตว์ วิตามินแร่ธาติจากผักใบเขียวและผลไม้ หากหลาน ๆ คนไหนที่ไม่ถนัดทำอาหารหรือทำงานออฟฟิศสามารถเลือกใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ได้เพราะสามารถช่วยเซฟได้ทั้งเวลา การเดินทานและหมดหวงเรื่องโควิดได้ครบจบในตัว
เลือกอาหารที่ถูกสุขอนามัย – เทคนิควางแผนการกินแบบร้านข้าวกล่องอาม่า’s สไตล์
ควรเลือกทานอาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ ได้คุณภาพและถูกปรุงอย่างถูกสุขลักษณะ นั่นหมายถึงเราควรเลือกทานอาหารร้อน ปรุงสุก ไม่ทานของดิบหรืออาหารที่ปรุงค้างเก็บ รวมไปถึงใช้อุปกรณ์การกินที่ผ่านการทำความสะอาดหรือถูกบรรจุอยู่ในถุงภาชนะที่ปิดสนิท สำคัญที่สุดอย่างลืมล้างมือให้สะอาดทุกครั้งทั้งก่อนเริ่ม – หลังทานอาหารนะครับ : )
เลี่ยงการออกไปทานข้างนอก – เทคนิควางแผนการกินแบบร้านข้าวกล่องอาม่า’s สไตล์
หากไม่มีความจำเป็นใด ๆ แนะนำให้เลือกสั่งข้าวกล่องหรือสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาทานที่ออฟฟิศหรือทำทานเองที่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางไปในพื้นที่แออัด แต่หากมีความจำเป็นที่ต้องออกไปทานอาหารข้างนอกจริง ๆ ควรให้ความสำคัญเรื่องการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร และไม่ลืมที่จะพกเจลล้างมือแอลกอฮอล์พร้อมทั้งสวมใส่หน้ากากทุกครั้ง
สั่งอาหารเดลิเวอรีหรือผูกปิ่นโตรายเดือน – เทคนิควางแผนการกินแบบร้านข้าวกล่องอาม่า’s สไตล์
สั่งอาหาร ดิลิเวอรี่ สำหรับใครที่ไม่สะดวกใจในการเดินทางออกไปซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารหรือไม่สะดวกด้านเวลาในการเตรียมหรือทำอาหารทุกวัน สามารถใช้ทางเลือกดี ๆ ด้วยการสั่งข้าวกล่องเดลิเวอรีหรือเลือกผูกปิ่นโตรายเดือนได้เช่นกันครับ ในส่วนนี้ได้ทั้งอิ่มอร่อยได้ความสะดวกสบายได้ทานอาหารครบ 5 หมู่ พร้อมทั้งหมดหวงเรื่องโควิดแน่นอน
ในเมื่อเรายังต้องออกไปใช้ชีวิต ออกไปทำงาน แม้สถานการณ์โควิดยังไม่คลีคลายดี แต่ถ้าหากเราวางแผนการใช้ชีวิต วางแผนการกินอย่างมีแบบแผน ผมกับอาม่าเชื่อเป็นอย่างยิ่งเลยครับว่า หลาน ๆ ทุกคนจะสามารถใช้ชีวิตแบบ New Normal ได้อย่างแฮปปี้แน่นอนครับ
สำหรับหลาน ๆ คนไหนยังไม่มีไอเดียปรับตัวในการงวางแผนการกินในยุค New Normal นี้ก็สามารถลองเอา 4 เทคนิคจากร้านข้าวกล่องอาม่าไปใช้กันได้เลยนะครับผม 🙂 แต่ยังไงก็อย่าลืมทานอาหารให้ครบ 5 หมู่กันด้วยนะครับ
แหล่งอาหาร 5 หมู่ ที่สำคัญได้แก่
หมู่ 1 โปรตีน ( เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว )
อาหารหลักหมู่ที่ 1 คือ อาหารประเภทโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแระ ถั่วดำ ถั่วลิสง ผลิตผลที่ได้จากถั่ว เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ซึ่งโปรตีนที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายช่วยการเจริญเติบโตของร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูกล้ามเนื้อและซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอ คำแนะนำการบริโภคโปรตีนที่เหมาะสม สำหรับคนทั่วไปควรได้รับโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และคนออกกำลังกาย ควรได้รับโปรตีน 2-3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
หมู่ 2 คาร์โบไฮเดรต ( ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน )
อาหารหลักหมู่ที่ 2 คือ อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ได้จาก มันเทศ ควินัว ข้าวกล้อง เป็นแหล่งพลังงานหลักของระบบประสาทและสมอง เมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตจะแบ่งเป็นน้ำตาลขนาดเล็ก คือ กลูโคส และฟรุกโตสที่ลำไส้เล็กสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ซึ่งจะเข้าสู่กระแสเลือดไปยังตับ ตับจะเปลี่ยนน้ำตาลทั้งหมดเป็นกลูโคส ซึ่งไหลผ่านกระแสเลือดพร้อมกับอินซูลิน และแปลงเป็นพลังงานสำหรับการทำงานของร่างกายช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำการบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสม สำหรับคนทั่วไป ควรได้รับคาร์โบไฮเดรต 3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และคนออกกำลังกาย ควรได้รับโปรตีน 2-3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
หมู่ 3 เกลือแร่หรือแร่ธาตุ ( พืชผัก )
อาหารหลักหมู่ที่ 3 ที่ได้จากผักใบสีเขียว ผักสีเหลืองเป็นแหล่งรวมเกลือแร่และแร่ธาตุแก่ร่างกาย เช่น ฟักทอง มันเทศสีเหลือง ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ตำลึง แครอท คะน้า แตงกวา บวบ ฟักเขียว ผักกาดขาว ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย ป้องกันการบาดเจ็บของร่างกาย ช่วยปกป้องกระดูกแตกหัก และช่วยป้องกันฟันผุ
หมู่ 4 วิตามิน ( ผลไม้ )
อาหารหลักหมู่ที่ 4 ที่ได้จากผลไม้ชนิดต่าง ๆ อุดมไปด้วยวิตามินที่สำคัญช่วยป้องกันโรค ลดคอเลสเตอรอล ช่วยในระบบย่อยอาหาร ได้แก่ ส้มโอ ลูกพีช องุ่น เสาวรส มะละกอ กล้วย แอปเปิ้ล ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ควรกินผลไม้และผลไม้อย่างน้อยให้ถึง 400 กรัมต่อคนต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ
หมู่ 5 ไขมัน ( ไขมันจากพืชและสัตว์ )
อาหารหลักหมู่ที่ 5 โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว และไขมันไม่อิ่มตัว ส่วนใหญ่ไขมันที่ได้จากสัตว์ เช่น น้ำมันหมู น้ำมันไก่ น้ำมันจากวัว ครีม เนย ชีส และไขมันจากพืชบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นแหล่งให้พลังงานและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย สามารถช่วยในการดูดซึมของวิตามินบางชนิด ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของอวัยวะภายในร่างกาย ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ ช่วยป้องกันเส้นประสาท
การรับประทานสารอาหารหลัก 5 หมู่ ที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่หรือแร่ธาตุ วิตามิน และไขมัน เท่านั้นอาจยังไม่เพียงพอสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วย คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังร้ายแรงในอนาคตได้
รู้สึกหิว?? แอดไลน์มาสั่งอาหารกับอาม่าได้เลย : )