ผักเทศกาลกินเจ สวัสดีครับหลานๆที่น่ารักของอาม่าทุกๆคน เป็นยังไงกันบ้างครับกับช่วงเทศกาลกินเจที่ผ่านมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว หลานๆคนไหนมีเมนูเจที่ถูกใจหรือทานกันบ่อยอยู่หรือเปล่าเอ่ย? ต้องบอกเลยนะครับว่ามีผักหลายชนิดมากมายที่นำมาประกอบปรุงทำอาหารเจได้หลากหลายเมนู วันนี้ผมจึงจะขอนำเสนอผักยอดฮิตที่นำมาใช้ประกอบอาหารเจกัน เผื่อพี่ๆผู้อ่านจะนำไปใช้กันได้ครับ มาเริ่มต้นด้วยกันที่
1.คะน้า
เมนูผักยอดฮิตที่ขาดไม่ได้เลยครับสำหรับช่วงเทศกาลกินเจ ด้วยการที่เจ้าคะน้าสามารถนำมาปรุงอาหารได้ทุกส่วนตั้งแต้ก้านจนถึงใบ แถมยังมีประโยชน์แก่ร่างกายด้วยไม่ว่าจะเป็น ช่วยบำรุงประสาทตาและป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก ช่วยบำรุงโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงในโรคมะเร็ง โดยจะเจอเมนูผักคะน้าได้บ่อยในเมนูเส้นอย่าง ผัดหมี่เจ ผัดโซบะเจ ราดหน้าเจและอื่น ๆ อีกมากมายเลยครับ
2.เห็ดหอม
เห็ดหอมนอกจากจะมีรสชาติที่ดีสมชื่อแล้วยังมีสรรพคุณที่ดีอย่างมากอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะช่วยให้ปอดและหลอดลมทำงานดีขึ้นแล้วยังต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้ดีอีกด้วย เจ้าตัวเห็ดหอมสามารถนำมาประกอบอาหารประเภทต้มได้ดี ตั้งต้มจับฉ่าย พะโล้ กระเพาะปลา เจ ได้รสชาติเยี่ยมมากๆครับ
3.มะระ
แค่ได้ยินชื่อของผักชนิดนี้ก็ต้องบอกว่าเต็มอุดมไปด้วยคุณประโยชน์อย่างมากมายแน่นอน ถึงแม้จะมีรสชาติที่ขมแต่เมื่อนำมาทำประกอบอาหารจะได้รสสัมผัสที่สุดแสนจะอร่อย มะระนั้นมีคุณสมบัติเป็นยาขับระบายได้ดี ล้างพิษในลำไส้ รวมถึงช่วยต่อต้านสารก่อให้เกิดมะเร็งได้เยี่ยม มะระส่วนมากจะนำมาประกอบอาหารประเภทต้มซะส่วนใหญ่ครับ อย่างเมนู มะระต้มผักกาดดองเจ มะระต้มเกี้ยมฉ่าย อร่อยทานเพลินกันเลยครับ
4.ผักบุ้ง
ผักบุ้งต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งผักสุดฮิตในช่วงเทศกาลกินเจเลยครับ เพราะทานได้ทั้งก้านและใบแถมยังนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทั้ง ผัดผักบุ้งไฟแดง เย็นตาโฟ ยำเจ หรืออื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีสรรพคุณบำรุงสายตา บำรุงโลหิต แก้ร้อนใน อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำตาลในร่างกายอีกด้วย
5.ผักกาด
มากันถึงผักชนิดสุดท้ายแล้วครับ ซึ่งเจ้าพระเอกของเรา คือ “ผักกาด” ชื่ออาจจะดูธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยนะครับด้วยรสชาติที่หวานกรอบแถมนำมาประกอบอาหารเจได้หลากหลายประเภท ที่เห็นกันบ่อยๆก็จะเป็น สุกี้เจ ต้มยำเจ ผักกาดดองเจ ปอเปี๊ยะทอดไส้ผักกาดเจ แค่ได้ยินก็รู้สึกถึงความน่ากินแล้วครับหลานๆทุกคน นอกจากความอร่อยยังมีคุณประโยชน์ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยให้เจริญอาหาร ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุอย่างมาก ๆ ครับ แต่ผักชนิดอื่นที่เทศกาลกินเจ นำไปทำอาหารก็ยังมีอีกหลากหลาย ไปดูกันเถอะว่ามีผักอะไรอีกบ้าง
ผักกวางตุ้ง ผักเทศกาลกินเจ
ประโยชน์ของผักกวางตุ้ง คือ ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งกล้ามเนื้อเสื่อม
ฟักเขียว
ประโยชน์ของฟักเขียว คือ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยสารสกัดจากเมล็ดฟักเขียวสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและมะเร็งได้ เนื่องจากสารสกัดจากเมล็ดมีสารต้านออกซิเดชั่นของกรดไลโนเลอิก ช่วยลดอัตราการออกซิเดชั่นของไขมันเลว และยังช่วยยับยั้งฤทธิ์ของเอนไซม์สร้างแอนจิโอเทนซิน นอกจากนี้สารสกัดจากเมล็ดยังสามารถช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดลมอักเสบ แก้โลหิตเป็นพิษ ช่วยรักษาวัณโรค อีกทั้งยังช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ และแก้ไอได้อีกด้วย
แครอท
ประโยชน์ของแครอท คือ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย บำรุงกระดูก ฟัน เหงือก เล็บ ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น บำรุงสายตา บำรุงผิวหนัง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัย และการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ยับยั้งต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง รักษาโรคความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือด ลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาตและยังช่วยให้ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลวอีกด้วย
กะหล่ำปลี
ประโยชน์ของกะหล่ำปลี คือ ช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน เสริมสร้างภูมิคุ้มโรคให้แข็งแรงป้องกันหวัด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ และยังช่วยในการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการอักเสบของแผลในลำไส้ และยังช่วยบำรุงลำไส้อีกด้วย
กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
แค่มีกะหล่ำปลีหัวเดียวก็เนรมิตเมนูผัดผักไร้เนื้อสัตว์จานอร่อยได้แล้ว พบกับกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา จับผักผัดกับน้ำปลาจนกลิ่นหอม อยากกินแบบกรอบก็ผัดแป๊บเดียว ถ้าอยากกินแบบนิ่มก็ใส่น้ำเปล่าลงไปและผัดนานหน่อย คดข้าวสวยมารอเลยเพื่อน
ส่วนผสม กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
• กะหล่ำปลี 1 หัว
• กระเทียม 2 หัว
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืชเล็กน้อย (สำหรับผัด)
วิธีทำกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
1. หั่นกะหล่ำปลีเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วดึงแยกออกจากกัน นำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม
3. ใส่กะหล่ำปลีลงไปในกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) ให้ทิ้งไว้ 10 วินาทีก่อน จากนั้นค่อย ๆ ผัดให้กะหล่ำปลีโดนความร้อนทั่ว ๆ แต่ยังไม่ต้องสุกมาก
4. ราดน้ำปลาลงไปรอบ ๆ ขอบกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) รอจนมีกลิ่นน้ำปลาหอม ๆ ลอยขึ้นมาก่อน แล้วค่อยผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน พอผัดจนกะหล่ำปลีสุกแล้ว ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ถั่วงอก
ประโยชน์ของถั่วงอก คือ มีส่วนช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ผิวนุ่ม เปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล การรับประทานถั่วงอกเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้วิตามินซีจากถั่วงอกจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงประสาทและสมอง และช่วยในการทำงานของสมอง เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย และหากรับประทานถั่วงอกเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้อีก ด้วย
ผัดถั่วงอก
ใครชอบกินถั่วงอกห้ามพลาด พบกับเมนูผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้และขึ้นฉ่าย เติมความจัดจ้านจากพริกขี้หนู ผัดพอสุกจะได้ถั่วงอกเคี้ยวแบบกรุบ ๆ นะคะ
ส่วนผสม ผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• เต้าหู้แข็ง (หั่นเป็นชิ้น)
• ถั่วงอก
• พริกขี้หนูทุบพอแตก (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
• ขึ้นฉ่าย (หั่นท่อน)
• น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวพอหอม ตามด้วยเต้าหู้ลงไปผัดสักครู่
2. เร่งไฟให้แรงใส่ถั่วงอกลงไป ตามด้วยพริกขี้หนู ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย รีบผัดให้เข้ากันจนสุกตามต้องการ ตบท้ายด้วยการโรยขึ้นฉ่ายผัดสักครู่ ตักขึ้นใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับหลานๆของอาม่ากับผักทั้ง5ชนิดที่ขึ้นชื่อว่าได้รับความนิยมอย่างมากในเทศกาลกินเจดูน่าทานและมีคุณประโยชน์ที่ดีจริงๆครับ หากหลานๆคนไหนมีผักชนิดอื่นที่ชื่นชอบในเทศกาลกินเจสามารถนำมาบอกต่อหรือแชร์เมนูกันได้นะครับ สำหรับครั้งหน้าบอกก่อนเลยว่าผู้ที่รับประทานเจแล้วชื่นชอบทานขนมหวานไม่ควรพลาดอย่างยิ่งแต่จะเกี่ยวกับเรื่องใดนั้นต้องรอติดตามกันนะครับ แต่ตอนนี้ผมต้องขอตัวาไปก่อนสวัสดีครับ