สุขสันต์ไปกับเทศกาลวันไหว้พระจันทร์

 

วันไหว้พระจันทร์ หลานๆทุกคน! เห็นพระจันทร์บนฟ้าหรือเปล่า? ทำไมวันนี้ถึงได้กลม ขาวนวล สวยกว่าทุกวัน  อ๋อ วันนี้วันไหว้พระจันทร์นี่เอง กลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะครับสำหรับบทความดีๆจากร้านข้าวกล่องอาม่าโดยวันนี้เป็นโอกาสพิเศษในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ผมจะเพื่อน พี่ๆไปรู้จักกับเรื่องราวของเทศกาลนี้ พร้อมแล้วอย่ารอช้ามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

 

“วันไหว้พระจันทร์”  ถือเป็นประเพณีของชาวจีนและลูกหลานชาวจีนต่างถิ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานนับพันปีแล้วนะครับ ซึ่งจะตรงกับทุกๆ 15ค่ำเดือน8 ช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมของทุกปี โดยมีตำนานความเชื่ออยู่หลายเรื่องครับแต่ที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆจะเป็นเรื่องของเทพธิดาฉางเอ๋อผู้เป็นเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์และเรื่องราวของกระต่ายหยกบนดวงจันทร์ อย่างที่ได้เคยเล่าไปในบทความเกี่ยวกับประวัติวันไหว้พระจันทร์ในบทความที่แล้วครั้งนี้ผมเลยอยากจะขอเล่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับของมงคลที่ใช้สำหรับพิธีไหว้พระจันทร์ให้หลานๆได้รู้กันบ้าง

 

 

ของมงคลสำหรับใช้สักการะวันไหว้พระจันทร์

เริ่มแรกมาที่การตั้งโต๊ะไหว้กันก่อนครับโดยโต๊ะที่จะใช้ตั้งในพิธีจะนำต้นอ้อยมาตกแต่งจัดวางเป็นซุ้ม ตามด้วยโคมไฟสีแดงที่ดูสวยงามอลังการมากเลยครับ หากใครอยากจะไหว้เพื่อขอให้ได้คู่ครองมาอินเลิฟก็ให้ถวายของแบบเป็นคู่ครับ มาต่อกันที่ของสำหรับไหว้สักการะพระจันทร์ซึ่งจะประกอบไปด้วย

               1.กระดาษเงินและกระดาษทอง – ซื้อแบบสำเร็จรูปก็ได้ครับแต่บางทีเราก็จะเห็นบางครอบครัวช่วยกันพับไว้ตั้งแต่เช้าแล้วถือว่าประหยัดเงินแถมได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย

               2.ธูปและเทียน – ธูปใช้ทั้งหมด3ดอกครับส่วนทีมใช้เทียนแดง1คู่

               3.ของใช้สำหรับผู้หญิง – เพราะพระจันทร์เปรียบเสมือนตัวแทนของเทพธิดาฉางเอ๋อ การบูชาด้วยของใช้สำหรับผู้หญิงจะต้องถูกใจท่านอย่างแน่นอนครับ โดยจะใช้เป็น ชุดเครื่องแป้ง,เครื่องสำอาง,เครื่องประดับ,เครื่องแต่งกายของผู้หญิง,น้ำหอม

 4.อาหารเจแห้ง5อย่าง – ประกอบด้วย วุ้นเส้น,ดอกไม้จีน,เห็ดหูหนู,ฟองเต้าหู้ เหมือนที่เราใช้ไหว้เจ้าแม่กวนอิมกันเลยครับ

5.น้ำชา – น้ำชาต้มใส่ในถ้วยจอกสีแดงที่เป็นสีมงคล ใช้ทั้งหมด4ถ้วยครับ

               6.ข้าว  – ใช้ได้ทั้งข้าวสารหรือข้าวสวยหุงสุกก็ได้ครับ แต่ผมว่าข้าวสวยก็ดีครับไหว้เสร็จแล้วกินต่อได้เลยได้ทั้งความอิ่มใจและอิ่มท้องพร้อมกัน

               7.ขนม – โดยขนมทั่วไปที่ใช้ไหว้ คือ สาคูแดง,ขนมเปี๊ยะ,ขนมโก๋สีขาวหรือเหลือง ได้ทั้งสองแบบเลยครับ แต่ไม่ว่าแบบไหนก็เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆแน่นอน

               8.ผลไม้ – ใช้เป็นผลไม้ที่มีความหมายมงคลครับมีทั้ง สาลี่ ที่หมายถึง สิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต,ส้ม ผลไม้ยอดนิยม ที่มีความหมายถึงสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต,องุ่น ความเจริญเพิ่มพูน,ส้มโอ สัญลักษณ์ของความเจริญงอกงาม ความเฟื่องฟูและความร่ำรวย ,แอปเปิ้ล ความสงบสุขสันติและสุดท้าย คือ ทับทิม ที่หมายถึงการมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองครับ

               9.ขนมไหว้พระจันทร์ – จะขาดไม่ได้เลยครับสำหรับพระเอกของเรานั่นคือ ขนมไหว้พระจันทร์ แต่สำหรับใช้ไหว้จะต้องไม่มีส่วนผสมของไข่แดงเค็ม,โหงวยิ้ง ที่เป็นแบบนั้นเพราะทั้ง2ไส้มีส่วนผสมที่ไม่ใช่เจครับ ซึ่งอาหารที่ใช้ไหว้ทั้งหมดต้องเป็นเจ แต่ถ้าเป็นไส้ทุเรียนหรือผลไม้ล่ะก็ขึ้นไหว้ได้แน่นอน ไหว้เสร็จแล้วยังสามารถตัดแบ่งกันรับประทานกันในครอบครัวได้อีกด้วย

 

ช่วงเวลาในการไหว้พระจันทร์

โดยช่วงเวลาของการไหว้จะเริ่มตั้งแต่ช่วงโพล้เพล้ที่เริ่มเห็นพระจันทร์ ไปจนถึงเวลา 22.00-23.00 น. ถ้านานกว่านี้เกรงว่าจะง่วงกันหมดก่อนแน่ๆเลย ที่สำคัญระหว่างไหว้เช็คฟืนไฟให้ดีนะครับเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากไฟที่อาจเกิดขึ้นได้ เรื่องนี้ผมกับอาม่าขอเดือนด้วยความเป็นห่วงหลานๆทุกคนมากๆเลยครับ

แต่ใจความสำคัญที่แท้จริงของเทศกาลนี้นอกจากจะมีขึ้นเพื่อกราบไหว้พระจันทร์แล้ว ยังเพื่อให้ญาติพี่น้องได้กลับมาอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันในวันพิเศษที่มีค่ำคืนสวยงามแบบนี้ครับ อ๊ะ! อาม่ากับพี่ๆทุกคนที่ร้านเรียกผมให้ไปกินขนมไหว้พระจันทร์แล้ว วันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับขอให้หลานๆทุกคนมีความสุขในการเฉลิมฉลองงานเทศกาลไหว้พระจันทร์ในค่ำคืนนี้ สำหรับครั้งหน้าจะมีบทความดีๆอะไรจากทางร้านข้าวกล่องอาม่านั้นอย่าลืมมาติดตามอ่านกันนะครับ สวัสดีครับ

ว่าด้วยกระต่ายในดวงจันทร์

ถ้าพูดถึง “ดวงจันทร์” แล้วไม่พูดถึง “กระต่ายในดวงจันทร์” หรือ 月兔 (yuè tù) ก็ดูเหมือนจะขาดอะไรไปนะคะ ตำนานกระต่ายในดวงจันทร์นี้เป็นเรื่องเล่าของทางเอเชียตะวันออก ในแต่ละประเทศก็มีรายละเอียดต่างกัน แม้แต่ของจีนเองก็มีอยู่หลายเวอร์ชั่นโดยทุกเวอร์ชั่นล้วนสัมพันธ์กับ “ดวงจันทร์” โดยตำนานเล่าว่า…

มีกระต่ายตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ กระต่ายตัวนี้ทำหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะให้กับ “ฉางเอ๋อ” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ บ้างก็ว่ากำลังทำขนมไหว้พระจันทร์ (ตำนานญี่ปุ่นเล่าว่ากำลังตำแป้งสำหรับทำโมจิ) วันหนึ่งได้เกิดโรคอหิวาต์ระบาดครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่ง เทพธิดาฉางเอ๋อจึงส่งกระต่ายลงมารักษาโรคให้กับชาวบ้าน หลังจากรักษาชาวบ้านและกำจัดโรคร้ายสำเร็จ เจ้ากระต่ายจึงกลับขึ้นไปบนดวงจันทร์ ตั้งแต่นั้นมาเลยมีธรรมเนียมกราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่ายในเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย

โดยสรุปแล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าต้นกำเนิดหรือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเทศกาลไหว้พระจันทร์มีเพื่อสิ่งใดกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือเพื่อระลึกถึงเทพธิดาฉางเอ๋อ ที่แน่ๆในวันนี้พวกเราจะได้ลิ้มรสขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยที่มีให้รับประทานกันปีละครั้ง และสำหรับชาวจีนแผ่นดินใหญ่เอง วันนี้ยังถือเป็นวันสำคัญที่จะได้เดินทางกลับบ้านไปอยู่ร่วมกับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย 

 

ฉางเอ๋อกับความก้าวหน้าทางอวกาศของจีน

จากตำนานที่เหล่าซือเล่ามาข้างต้นจะเห็นว่าชาวจีนโบราณมีความผูกพันกับ “ดวงจันทร์” ไม่น้อย นอกจากเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ก็ยังมีบทกวี วรรณกรรม และตำนานอื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวกับดวงจันทร์ จวบจนยุคปัจจุบันที่เข้าสู่ยุคการสำรวจอวกาศ จีนก็ได้ตั้งชื่อยานสำรวจดวงจันทร์ลำแรกตามชื่อของ “ฉางเอ๋อ” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ โดยมียานลำแรกคือ ยานฉางเอ๋อ-1 (嫦娥一号) ที่เริ่มปฏิบัติการณ์ในปี ค.ศ. 2007 จนถึงยานรุ่นล่าสุดคือ ยานฉางเอ๋อ-5 (嫦娥五号) ที่ในปี ค.ศ. 2020 ประเทศจีนได้ประสบความสำเร็จในการเก็บตัวอย่างวัตถุจากดวงจันทร์และนำกลับสู่โลกเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นแล้วยานฉางเอ๋อ-5 ยังถือเป็นยานลำแรกในรอบ 44 ปี ที่มนุษย์ส่งไปเก็บวัตถุตัวอย่างบนดวงจันทร์ สร้างความภาคภูมิใจแก่ชาวจีนเป็นอย่างมาก

 

วันไหว้พระจันทร์…ชาวจีนทำอะไรบ้าง?

ในศตวรรษที่ 21 ชาวจีนอาจไม่ได้มีความเชื่อหรือตระหนักถึงความสำคัญของเทศกาลไหว้พระจันทร์ในบริบทที่เคยเป็นมา แต่เทศกาลไหว้พระจันทร์ก็ยังเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ชาวจีนตั้งตารอมากที่สุด เนื่องจากทางการจีนกำหนดให้เทศกาลนี้เป็นวันหยุดยาว* ชาวจีนที่ออกมาทำงานต่างเมืองจึงรอคอยที่จะใช้โอกาสนี้เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ส่วนผู้ที่ไม่ได้เดินทางกลับบ้านก็จะใช้โอกาสนี้พักผ่อนหรือใช้เวลาร่วมกับเพื่อนสนิทมิตรสหาย

 

ในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ที่ตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นคืนเดือนเพ็ญที่พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นบนท้องฟ้า กล่าวกันว่าคืนนี้พระจันทร์จะกลมโตและส่องสว่างงดงามที่สุดในรอบปี สมาชิกครอบครัวจะมารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารค่ำ ชมความงามของดวงจันทร์ พร้อมรับประทาน “ขนมไหว้พระจันทร์” ซึ่งรูปทรงกลมของมันมีที่มาจากดวงจันทร์ และเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความสมัครสมานสามัคคีของคนในครอบครัว ตามธรรมเนียมแล้วเวลากินขนมไหว้พระจันทร์จึงต้องตัดแบ่งเป็นชิ้นขนาดเท่าๆกันเท่ากับจำนวนสมาชิกในครอบครัว นอกจากนั้นแล้ว ในคืนวันไหว้พระจันทร์ในบางพื้นที่ก็จะมีการไหว้ขอพรจากดวงจันทร์ โดยมักเริ่มตั้งโต๊ะบูชาตั้งแต่ตอนหัวค่ำที่ดวงจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้าไปจนถึงประมาณ 4-5 ทุ่มและมีการจุดโคมด้วย

 

ที่มาของ มูนเค้ก หรือขนมไหว้พระจันทร์

ขนมไหว้พระจันทร์ปรากฏครั้งแรกในยุคสมัยสงครามจีน (ปี 475-221 ก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งพิธีเซ่นไหว้พระจันทร์นั้น ตามบันทึกพงศาวดารจีน “โจวหลี่” บันทึกไว้ว่า ประเทศจีนมีการเซ่นไหว้พระจันทร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งพิธีการเซ่นไหว้นั้นมาจากความฝันของฮ่องเต้ หมิงหวง ในคืนวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ที่ทรงพระสุบินว่าได้เสด็จประพาสบนดวงจันทร์ และทรงพระเกษมสำราญยิ่ง เมื่อพระองค์ทรงตื่นบรรทม จึงทรงโปรดให้ฝันนั้นกลายเป็นจริงอีกครั้ง โดยมีรับสั่งให้พระสนมแต่งตัว และร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาตามความฝัน

 

ตั้งแต่นั้นมา ทุกวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 จึงเป็นที่มาของเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ราษฎรทั่วไปร่วมกันบูชาดวงจันทร์ทั่วประเทศจีน

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีใครรู้ที่มาจริงๆ ของเทศกาลไหว้พระจันทร์ เพราะจะมีการบันทึกที่เป็นลักษณะของเรื่องเล่าอิงประวัติศาสตร์หลายๆ ที่มาด้วยกัน แต่ ขนมไหว้พระจันทร์ ก็เป็นของหวานที่เป็นที่นิยมอย่างมากจนถึงปัจจุบัน และมีการปรับปรุงสูตรการทำขนมไหว้พระจันทร์ต่างๆ นานา จนมีหลายไส้ หลายแบบมากมายเลยทีเดียว

 

armabox.net

 

Line ID: @armabox

สินค้าในตะกร้า

ไม่มีสินค้าในตะกร้า